ทฤษฏีการอ้วกในห้องสอบ


อัสสามมูอาลัยกุม
เคยถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมการเรียนต้องมีการสอบด้วย แต่ก็ช่างมันเถอะครับตอนนี้ก็น่าจะเป็นฤดูแห่งการสอบ มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนที่คิ้วติดกัน หน้าเครียดๆกันไปหมด ถ้าเราสังเกตดูสิ่งสำคัญที่สุดในการอ่านหนังสือนั้นก็คือ “ความจำ” เพราะตามที่เรารู้ๆกันอยู่อาวุธที่สำคัญที่สุดในการสอบนั้นก็ความรู้ที่เราจำจากที่เราอ่าน ปัญหาก็คือ จะทำอย่างไรให้จำได้ดี ตามบทกลอนของอีหม่ามซาฟีอีย์ที่กล่าวว่า “แท้ที่จริงแล้วความรู้คือแสงของอัลลอฮ” อีหม่ามซาฟีย์เป็นผู้ที่มี่ความจำอย่างยิ่งยวดถึงขนาดเวลาท่านจะอ่านหนังสือหรือท่องจำอะไรสักอย่างท่านต้องปิดหน้าหนึ่งแล้วก็อ่านอีกหน้าหนึ่งของหนังสือเพราะกลัวว่าจะจำมั่วและครั้งหนึ่งท่านไปหาอาจารย์ของท่านที่มีชื่อว่า “วากีล” (ถ้าผมจำไม่ผิด)แล้วก็ศึกษาอย่างปกติแต่ที่ไม่ปกติก็คือความสามารถในการจำของท่าน แล้วท่านก็เล่าให้อาจารย์ท่านนั้น อาจารย์ท่านนั้นก็ได้ถามอีหม่ามซาฟีอีย์ว่าไปทำอะไรมาเมือเช้า ท่านอีหม่ามซาฟีอีย์ก็นึกขึ้นได้ว่า เมือเช้าในระหว่างท่านเดินอยู่นั้น มือของท่านไปสัมผัสกับขาของผู้หญิงคนหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ ท่านอาจารย์ของเขาก็ได้ตอบว่า นั้นแหละคือสาเหตุ เราก็ลองมาสำรวจตัวเองดูว่าวันๆเราได้ทำอะไรไปบ้างคงไม่ต้องอธิบายให้ออกทะเลไปเรารู้อยู่แก่ใจดีนักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่รวมทั้งตัวผมด้วยพอถึงฤดูการสอบเรามักจะใช้ “ทฤษฏีการอ้วก” แล้วนำวิธีนี้มาใช้ในห้องสอบเป็นวิธีนิยมในหมู่นักเรียนนักศึกษา ทฤษฏีนี้ก็คือ การกินให้เยอะ แล้วก็อ้วกออกมาให้มากเท่าความสามารถ ปกติแล้วเราจะไม่อ่านหนังสือในเวลาว่างหรอกครับหมายถึงส่วนใหญ่เราจะไม่อ่านจนเส้นยาแดงผ่าแปด เรามักจะอ่านในคืนวันสอบหรือสองสามวันก่อนวันสอบอ่านให้มากที่สุดจำให้มากที่สุดแล้วใช้ความจำของเราที่ได้อ่านนั้นใช้ในห้องสอบเราเคยแปลกใจไหมว่าทำไมเราอ่านแล้วจำทันทีเลยในช่วงค่ำคืนเดียวนั้นแหละครับที่เขาเรียกว่า ทฤษฏีการอ้วก อาหารที่เราทานเข้าไปเสมือนความจำ พอถึงห้องสอบก็อ้วกออกมาไม่มีอะไรติดท้องเลย พอเวลาผ่านไปก็รู้สึกหิวขึ้นมา แต่ผมว่าถ้าจำเป็นก็น่าใช้วิธีนี้นะครับดีกว่าปล่อยให้ท้องว่าง เดี้ยวกระเพาะถามหาจะปวดท้องไม่สบายอีกและเราอาจไม่ลืมโรคกระเพาะนี้ก็เป็นได้(จำเลย)
สุดท้ายขอดุอาร์ให้ทุกคนสอบผ่านได้คะแนนงามๆดีๆ ผมขอตัวไปใช้ทฤษฏีการอ้วกก่อนครับใกล้สอบแล้ว
อัลลอฮคุ้มครองคราบบบบบบบ

เรียบเรียงโดย Anas Dawor(Ibnu-sha-ti-E)

ระหว่างเรากับอายุนั้นเป็นเพียงตัวเลข... รู้ไหม?



ลุงครับเท่าที่ผมจำความได้ ลุงเป็นลุงที่ใจดีมีมารยาท สุขุม เยือกเย็น
ทุกถ้อยคำที่ลุงพูด....เป็นคำสอน ทุกอากัปกริยาที่ลุงทำ...เป็นข้อเตือนใจให้คิด
ลุงครับ ประโยคเดียวที่ลุงจะพูดกับผมเสมอว่า”ขอเพียงเจ้าได้รักมัน มันก็จะเป็นทุกอย่างให้กับเจ้า
” ผมยังจำได้ไม่ลืม แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจความหมายจริงๆของลุง...
ลุงครับ... ลุงทำได้อย่างไรครับ?
...เดินไปละหมาดซุบฮึที่มัสยิดตั้งแต่ตี 4 ถึงตี5 ถึงระยะทางระหว่างมัสยิดกับบ้านมันอาจไม่ไกลกันมาก
แต่ลุง...แก่แล้ว ลุงก็ยังฝืนทำ เพียงประโยคๆเดียว” ขอเพียงเจ้าได้รักมัน มันก็จะเป็นทุกอย่างให้กับเจ้า”
ลุงครับ... ทุกวันจันทร์ วันพฤหัส ลุงไม่เคยขาดถือศีลอดซุนนะฮ.
ทั้งๆที่ลุงก็ต้องกินยาตามที่หมอสั่งทุกครั้งหลังอาหาร ผมเห็นมือลุงสั่น แต่ลุงก็ยังยืนยันประโยคเดิม” ขอเพียงเจ้าได้รักมัน มันก็จะเป็นทุกอย่างให้กับเจ้า”
ลุงครับ... คนสูงอายุคนอื่น ยิ่งแก่ตัว ความจำก็ยิ่งเลอะเลือน
แต่ลุงไม่ใช่...ภายใน1ปี ลุงสามารถท่องจำกุรอานได้1 ญุซอ์.อย่างสบายๆ แต่มันกลับเป็นเรื่องหนักหนากับคนหนุ่มอย่างผม แต่ลุงก็ยังคงยืนยันประโยคเดิม” ขอเพียงเจ้าได้รักมัน มันก็จะเป็นทุกอย่างให้กับเจ้า”
ลุงครับ... ผมอยากให้ลุงพักผ่อนมากๆ สุขภาพจะได้แข็งแรงเพื่อลุงจะได้อยู่กับผมได้นานๆ
แต่ทุกคืนผมเห็นลุงลุกขึ้นมาละหมาดตะฮัจญุด น้ำตาแห่งความเป็นผู้ชายของลุงนองหน้าตอนที่ลุงขอดุอาอ.
ให้ลูกหลาน ลุงไม่ง่วงหรือล้าบ้างหรือครับ ผมเห็นลุงได้แต่ยืนยันเหมือนเดิม
” ขอเพียงเจ้าได้รักมัน มันก็จะเป็นทุกอย่างให้กับเจ้า”
ลุงครับ...ลุงมักจะดุผมว่าใช้เวลาว่างไม่เป็นประโยชน์
ผมไม่เคยเห็นลุงทำอะไรเพื่อตัวลุงเองซักที ยิ่งช่วงหลังมัฆริบ ลุงก็สอนกุรอานเด็กๆ เล่าประวัติศาสตร์ซอฮาบะฮ.
สำคัญๆให้ฟัง
ก็เพียงประโยคเดิมอีกนั่นแหละ ” ขอเพียงเจ้าได้รักมัน มันก็จะเป็นทุกอย่างให้กับเจ้า”
ลุงครับ...ผมไม่เคยเห็นลุงโกรธมากเท่ากับคนที่ทำผิดในเรื่องศาสนา
ลุงจะคอยโต้ตอบอย่างถึงที่สุด...เพื่อความถูกต้อง ลุงไม่เคยโกหกไม่เคยกลัวใคร(ยกเว้นอัลลอฮ.)เพียงเพราะประโยคเดิมๆ” ขอเพียงเจ้าได้รักมัน มันก็จะเป็นทุกอย่างให้กับเจ้า”
ลุงครับ...ผมไม่เข้าใจ ลุงแก่แล้ว แต่ทำไมลุงถึงสามารถตอบคำถามหลานๆได้
อย่างมีไหวพริบ ทะลุปรุโปร่ง รู้ทันไปซะหมด ทั้งๆที่ลุงเองก็ไม่ได้ออกไปเจอโลกภายนอก ซึ่งก็ผิดกับผมที่กลับเลอะๆเลือนๆ ย้ำคิดย้ำทำ สับสน ทำอะไรไม่เคยสำเร็จซักอย่าง ที่ลุงเป้นอย่างนี้ได้ ก็คงจะเป็นประโยคเดิมอีกใช่ไหมครับ ” ขอเพียงเจ้าได้รักมัน มันก็จะเป็นทุกอย่างให้กับเจ้า”
” ขอเพียงเจ้าได้รักมัน มันก็จะเป็นทุกอย่างให้กับเจ้า”
ประโยคนี้คุณคงไม่สามารถที่จะตีความหมายมันออกมาได้เป็นแน่แท้ ถ้าคุณไม่รู้จักมันและลองปฏิบัติมันด้วยตัวคุณเอง
ก็เพราะมันนั่นแหละที่ทำให้ชายแก่ธรรมดาๆคนหนึ่ง
กลายเป็นหนุ่มอย่างน่าทึ่ง ทั้งหัวใจ ความคิด ทั้งกำลังเรี่ยวแรง
ไม่มีส่วนไหนที่ดูว่าแก่ อวัยวะทุกส่วนถูกเปลี่ยนเป็นของใหม่ที่ไม่ร่องรอยส่วนไหนที่บ่งบอกว่าใช้งานมานานเลย
ก็เพราะไม่มีมันนั่นแหละ ที่ทำให้ชายหนุ่มธรรมดาๆอย่างผมและคนอื่นๆกลายเป็นคนแก่ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
กำลังวังชาที่สมควรจะมีกลับหายไปหมด หลงเหลืออยู่แต่ความตระหนก หวาดกลัว สิ้นคิด
ไร้สาระไปวันๆ ใช้ชีวิตอย่างไร้ค่า ไร้จุดหมายปลายทาง คำว่าเยาวชน
ภาพสำหรับพวกเรากลับกลายเป็นตัวสร้างปัญหาให้สังคม น้อยเหลือเกินสำหรับภาพพจน์ดีๆที่ถูกมอง
ลุงครับ...ผมอาย...ผมอายลุงจังเลยครับ มันแตกต่างกันแค่นิดเดียว นิดเดียวจริงๆครับลุง
ตรงที่ลุงมีมัน...มัน ที่เป็น อิสลาม...อิสลามที่แปรเปลี่ยนเป็นกำลัง
เป็นทั้งเรี่ยวแรง ความคิด ปฏิญาณ ให้กับคนแก่อย่างลุง ชุบชีวิตมาให้หนุ่มอีกครั้งหนึ่ง
แต่ผลมันกลับสะท้อนให้ผมได้เห็นว่า หากผมไม่มีมัน...มันที่เป็นอิสลาม ผมคงจะ



Andaikan diriku bisa
Seperti yang lain
Yang Kau sayang
Yang Kau rindukan
Yang Kau cintai

Aku lemah tanpaMu aku lelah
Aku sungguh tak berdaya
Tolongku
Tolongku
Yaa Allah

Setiap air mataku mengalir
Allah aku lemah dan tak berarti
Setiap derai tangis membasahi
Allah jangan tinggalkan aku lagi

Aku sayang Allah
Aku rindu Allah
Aku Cinta Allah

Aku lemah tanpaMu aku lelah
Aku sungguh tak berdaya
Tolongku
Tolongku
Yaa Allah

Setiap air mataku mengalir
Allah aku lemah dan tak berarti
Setiap derai tangis membasahi
Allah jangan tinggalkan aku lagi

Aku sayang Allah
Aku rindu Allah


เสียงร้องโหวกเหวกกลางทะเลทราย
เป้าหมายเลือดเนื้อปล้นทรัพย์ยึดสิน
เสียงระเบิดครั้งแล้วครั้งเล่าไม่สิ้น
พี่น้องของฉันถูกเชือดถวายกาย

พวกหมาสัตว์ร้ายอุบาทชาติสันดานเลว
พวกเปรตโคตรเลวชาติชั่วสัตว์เหี้ย
พวกนรกจัญไรเลววิปริตผิดมนา
พวกสัตว์กะหมาเหี้ยๆแย่งแผ่นดินพี่น้องกู

ระเบิดบ้างกระสุนบ้างสาดกระหน่ำเข้าไป
อักศอขุดไปหวังทลายเสียสิ้น
อัฟกันตอลีบันปาเลสไตน์เอาระเบิดไปกิน
ศัตรูปลิ้นหมายปองเผ่าพันธ์มุสลิม
แต่ใยสลดใจตัวเองยิ่งนัก
ญาติฉันนี่เองส่งอาวุธให้
ร่วมวงส่งเสริมไอ้พวกจัญไร
โคกไง แฟนต้าไง ซื้ออาวุธให้พวกมัน

ดื่มกินเลือเองเต็มปากไร้ยางอาย
วางวายความคิดพี่ฉันน้องพี่
วิปริตทำตามพวกอัปปรีย์
บดขยี๊พี่น้องกูมลายพลัน

อัฟกันปาเลสไตน์เชชเนียโดนขย้ำ
เขาระส่ำคืนวันหนักหนา
ตรากตรำลำบากชีวิตจะได้มา
ชีวิตเกิดมาเพื่อสู้ผู้ทรหด

...แล้วช่วงเวลาก็เป็นประตูหนึ่งที่กลายเป็นบัญชี......


Ku? tak pernah merasa
Gundah di hatiku, Ketika denganmu
Saat kau, Kau belai rambutku
Kau temani aku, Kau basuh lukaku


Kini semua berlalu
Karena engkau tak memilihku

Salahkah aku mencintaimu
Walau kutahu kutak dihatimu
Egokah aku memilikimu
Walau kutahu kau tak memilihku
Kuharap tuhan cabut nyawamu
Agar tak ada yang milikimu

Sadarkah kini ku tak rela
Iman ku telah sirna
Mimpiku tak nyata

Kini semua berlalu
Karena engkau tak memilihku

Salahkah aku mencintaimu
Walau kutahu kutak dihatimu
Egokah aku memilikimu
Walau kutahu kau tak memilihku
Kuharap tuhan cabut nyawamu
Agar tak ada yang milikimu
Kuharap tuhan cabut nyawamu
Agar tak ada yang milikimu